วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

20 เหตุผล ออกกำลังกาย ดีอย่างไรกับผู้หญิง




                 สมัย ผู้หญิง ก็หันมารักตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าแต่งตัวสวยๆ ใช้ของหรือเครื่องสำอางค์ดีๆ มองโลกและปรับนิสัยให้คิดแต่สิ่งที่ดีๆ แหม .. อะไรก็ดูดีไปซะหมด แต่สาวๆบางคนก็อาจจะลืมไปว่า บางทีความสวยก็ต้องมาจากภายในเหมือนกัน มันถึงจะมีออร่า เปล่งปลั่งความสวยออกมา จริงไหม? วันนี้ teen.mthai นำข้อคิดดีๆมาให้สาวๆได้อ่านกัน ว่า ทำไมผู้หญิงถึงต้อง ออกกำลังกาย
สุขภาพดี ผู้หญิง
1. เพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า รูปร่างดีในฝันของฉัน สามารถกลายเป็นจริงได้
2. เพื่อแสดงให้คนที่ดูถูกว่าฉันหุ่นดีไม่ได้หรอก ได้รู้ว่าฉันทำได้
3. เพื่อแสดงให้ตัวเองได้รู้ว่า ฉันรักตัวเองมากขึ้น
4. เพื่อเอาชนะเจ้าไขมัน อุปสรรคของการมีสุขภาพดี
5. เพื่อเตือนตัวเองให้รู้ว่า ร่างกายของฉันเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดแล้ว
สุขภาพดี ผู้หญิง
6. เพื่อฝึกตัวเองให้รู้จักวิธีผ่อนคลายความเครียด
7. เพื่อพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า ฉันแข็งแรงและมีสุขภาพดี
8. เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และบริหารตับให้แข็งแรงขึ้น
9. เพื่อทำให้ตัวเองแต่งตัวได้หลากหลายขึ้น
10. เพื่อทำให้ตัวเองยิ้มได้ ที่ได้เห็นรูปร่างที่ดีในกระจก
สุขภาพดี ผู้หญิง
11. เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับครอบครัว ในการอยู่อย่างมีสุขภาพดี
12. เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้เคลื่อนไหวได้อย่างกระฉับกระเฉง
13. เพื่อสร้างความประทับใจแรกพบกับคนรอบข้าง
14. เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น
15. เพื่อให้ตัวเองได้ใส่ชุดว่ายน้ำอย่างมั่นใจ
สุขภาพดี ผู้หญิง
16. เพื่อป้องกันความเจ็บป่วย และยืดอายุชีวิตให้ยาวขึ้น
17. เพื่อทำให้ตัวเองได้สัมผัสความรู้สึกที่ว่า นางแบบก็มีรูปร่างไม่แตกต่างจากฉันเลย
18. เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นที่อิจฉาของสาว ๆ อวบอ้วนทั้งหลาย
19. เพื่อทำให้ตัวเองมีรูปร่างดีที่สุด เท่าที่ตัวเองจะเป็นได้
20. เพื่อบอกลาบั้นท้ายและพุงกระเพื่อมเวลาวิ่ง
รูปร่างที่ดี ก็สำคัญกับสาวๆมากนะจ๊ะ มักจะนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ ในชีวิตเสมอ ไม่ว่าจะสุขภาพที่ดี อารมณ์ดี และกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจคนรอบข้างได้ด้วย ทั้ง 20 ข้อนี้เป็นความเห็นของสาวๆ หุ่นดีที่รัก การออกกำลังกาย คะ
ที่มา reasonstobefit.tumblr.com

เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อตัวคุณเอง!!


ออกกำลังกายดีต่อสุขภาพอย่างไร?

 
            การออกกำลังกายเป็นเรื่องทำสำคัญต่อสุขภาพอย่างยิ่งซึ่งภายในหนึ่งวันหากสามารถออกกำลังกายได้เพียง 30 นาที ก็สามารถให้ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพของคุณอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

           

            ประการที่หนึ่ง ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง เพราะสมองก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่มีการเสื่อมลงตามวัย แต่การออกกำลังกายช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ ทำให้สามารถคิดและจดจำได้ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ การออกกำลังเป็นประจำยังทำให้ดูกระฉับกระเฉง มีสมาธิในการเรียนรู้ได้ดีกว่า
             
             ประการที่สอง ทำให้กระดูกแข็งแรงหนาขึ้น โดยปกติทั่วไปการกินแคลเซียมเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ควรออกกำลังกายควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง

             ส่วนประการที่สามนั้น เป็นการทำให้ผิวสวย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น ยิ่งร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระได้มากขึ้นเท่านั้น จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น

            ประการต่อมา ออกกำลังกายช่วยลดความเครียด ช่วยลดความวิตกกังวล ผ่อนคลายได้เนื่องจากในระหว่างการออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์หรือสารแห่งความสุข ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น นอกจากนี้การที่ร่างกายได้เคลื่อนไหว จิตใจก็ได้เคลื่อนไหวไปด้วย ทำให้ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่กังวลอยู่ ส่วนการออกกำลังกายแต่ละชนิด มีผลต่อสมองต่างกันการออกกำลังกายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการทำสมาธิ เช่น โยคะ หรือไทเก๊ก จะช่วยผ่อนคลายความเครียดในสมองได้มากกว่า การออกกำลังกายประเภทที่ต้องออกแรงมากๆ

            ประการที่ห้า ช่วยผ่อนคลายภาวะการณ์ปวดประจำเดือน สำหรับคุณผู้หญิงที่มักจะปวดประจำเดือน วิธีนี้จะเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยรักษาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดีที่สุด แต่ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ หรือแอโรบิค ถ้าไม่มีเวลาก็ออกกำลังง่ายๆ ด้วยการซิทอัพตอนเช้าก็ได้ ยิ่งใกล้รอบเดือนก็ยิ่งควรซิทอัพไว้ล่วงหน้า เพราะจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณมดลูกมีความยืดหยุ่นทำงานได้ดีขึ้น

           ประการต่อไป สามารถลดอาการท้องผูกได้ เพราะการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเร็วๆ การวิ่งเหยาะ การว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ระบบขับถ่ายได้ระบายของเสียและสารพิษออกจากร่างกายมากขึ้น

            ประการที่เจ็ด ทำให้หลับง่ายขึ้น ซึ่งการออกกำลังกายในช่วงเย็น ช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการออกกำลังกายมีผลโดยตรงกับระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

             ส่วนประการสุดท้ายนั้น ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนแข็งแรง ทำให้หุ่นกระชับสมส่วนได้

           รู้อย่างนี้แล้วสำหรับคนที่ยังไม่เริ่มออกกำลังกาย ต้องหันมาออกกำลังกายกันบ้างแล้วละ เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต เริ่มวันนี้ยังไม่สายค่ะ

หลักการและความรู้ทั่วไปเทคนิคการให้คำปรึกษา



ความหมายของการให้คำปรึกษา

                การให้คำปรึกษา หมายถึง กระบวนการให้ความช่วยเหลือ ติดต่อสื่อสารกันด้วยวาจาและกิริยาท่าทาง ที่เกิดจากสัมพันธภาพทางวิชาชีพของบุคคลอย่างน้อย คน คือ ผู้ให้และผู้รับคำปรึกษา
ผู้ให้คำปรึกษาในที่นี้หมายถึง ครูที่มีคุณลักษณะที่เอื้อต่อการให้คำปรึกษา มีความรู้และทักษะในการให้คำปรึกษา ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รับคำปรึกษาหรือนักเรียน ซึ่งเป็นผู้ที่กำลังประสบความยุ่งยากใจ หรือมีความทุกข์และต้องการความช่วยเหลือให้เข้าใจตนเอง เข้าใจสิ่งแวดล้อม ให้มีทักษะในการตัดสินใจ และหาทางออกเพื่อลดหรือขจัดความทุกข์ ความยุ่งยากใจด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาตนเองไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ (Burks and Shefflre, 1979 อ้างถึงใน George & Cristiani, 1995)
การให้คำปรึกษานี้มีลักษณะที่แตกต่างจากการให้บริการอื่นๆ ดังนี้ คือ (กรมสุขภาพจิต, 2540 ; Gladding, 1996)

                1. มีทฤษฏี กระบวนการและเทคนิคการให้คำปรึกษาให้ครูได้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะของปัญหาและธรรมชาติของนักเรียน
                2. เน้นสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูผู้ให้และนักเรียนผู้รับคำปรึกษา เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้สึกไว้วางใจ และกล้าเปิดเผยตนเอง ซึ่งจะช่วยให้การให้คำปรึกษาดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้การสนทนา หรือการสื่อสารสองทางระหว่างครูกับนักเรียน เป็นเครื่องมือสำคัญของการให้คำปรึกษา
                3. เน้นปัจจุบัน เพื่อให้นักเรียนอยู่ในโลกของความเป็นจริง และสามารถค้นหาแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ในปัจจุบัน
                4. ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปตายตัว เพราะการให้คำปรึกษาเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ วิธีการแก้ปัญหาในแต่ละกรณีจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพปัญหา โดยนักเรียนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
                5. ครูผู้ให้คำปรึกษาต้องให้เกียรติ และยอมรับนักเรียนที่มาขอรับคำปรึกษาอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ตัดสิน ไม่ประเมิน และไม่วิพากษ์ วิจารณ์ หรือตำหนินักเรียน